วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2555

จีฉ่อย...ร้านชำในความทรงจำของชาวจุฬาฯ ทั้งน่าทึ่ง น่ารัก น่าขัน น่าขนลุก และสิ่งที่ร้านนี้ไม่ขาย!

 

จีฉ่อย...ร้านชำในความทรงจำของชาวจุฬาฯ ทั้งน่าทึ่ง น่ารัก น่าขัน น่าขนลุก และสิ่งที่ร้านนี้ไม่ขาย!

วันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2555 เวลา 17:30:00 น.

Share4


บรรยากาศร้านจีฉ่อยในความทรงจำของอดีตนิสิตจุฬาฯ
 


จีฉ่อยยุคปัจจุบัน
 

"ลื้อจะเอาอาราย"

 

"...................."

 

"มี...มี..."

 

หญิงชราในเครื่องแต่งกายแบบชาวจีนหายเข้าไปค้นอะไรกุกกักอยู่หลังร้านพักหนึ่ง แล้วแกก็กลับมา บอกว่า

 

"พรุ่งนี้ลื้อมาเอานะ"

 

นี่เป็นเรื่องราวของตำนานที่มีลมหายใจของร้านชำเล็กๆ ย่านตลาดสามย่าน ที่เชื่อว่า นิสิตจุฬาฯ น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก

 

และเรื่องราวของจีฉ่อยยังถูกบรรจุอยู่ในวิกิพีเดียยาวเหยียด

 

ขนาดมีคนนำไปตั้งกระทู้ใน เฟสบุ๊ก ว่า "มีแสนคนที่ต้องรู้จักร้านจีฉ่อย"

 

แม้ว่าวันนี้ตลาดสามย่านจะถูกรื้อ แต่ร้านจีฉ่อยยังคงอยู่คู่กับชาวจุฬาฯ

 

ต่อไปนี้คือความทรงจำของอดีตนิสิตนิเทศ จุฬาฯ ที่รำลึกถึงจีฉ่อย ...

 

Yui Nithipreeya เคยไปซื้อสีทาคัทเอาท์ละครคณะตอนตี 2 จีฉ่อยก็ตื่นมาขายให้ ไม่ด่าด้วย

 

Jan Ravita เคยจะไปซื้อกล่องลังค่ะ จีฉ่อยบอกราคา 30 บาท เลยเดินไปซื้อที่ตลาดได้ราคา 15 บาท กลับมาเดินผ่านจีฉ่อย จีฉ่อยถามว่าเค้าขายให้กี่บาท ห้าบาทหรือเปล่า ความรู้สึก ณ ตอนนั้น...หึ! (แต่ก็ยังรักนะ)  ในฐานะที่เคยจะไปซื้อเป็ปซี แล้วทีแรกบอกไม่มี แต่พอทำท่าว่าเป็นเด็กนิเทศ จีฉ่อยก็บอกว่า มีๆๆ แล้วก็เนรมิตมาให้

 

Apaporn Rangdal เคยไปซื้อยางลบยี่ห้อสเตทเลอร์กับเพื่อนๆ ตอนนนั้นจีฉ่อยบอกว่าก้อนละห้าบาท พวกเราบอก"แพงจัง เคยซื้อร้านข้างหน้าขายแค่สี่บาทเอง" แล้วก็เอายางลบคืนจีฉ่อย พอไปร้านข้างหน้า ร้านนี้ขายก้อนละห้าบาทเหมือนกัน พวกเราก็เดินกลับมาที่จีฉ่อย แล้วบอกว่า "เออแฮะ ร้านนั้นก็ขายห้าบาทเหมือนกัน แต่พูดจาไม่ดี พวกเราเปลี่ยนใจเลยกลับมาซื้อจีฉ่อยดีกว่า" จีฉ่อยก็หยิบยางลบก้อนเดิมที่ยังวางบนโต๊ะหน้าร้านมาใหแล้วบอกว่า "โอเค งั้นขายให้สี่บาท แล้ววันหลังมาซื้อที่นี่นะ" ....ไงล่ะ ไม่ใช่แค่มีขายทุกอย่าง ยังใจกว้างให้ไปสืบราคาในตลาดก่อนด้วย ถ้ายังรักกลับมาซื้อที่ร้าน จีฉ่อยยังใจปล้ำไม่โกรธ แถมลดราคารักษาน้ำใจลูกค้าอีกต่างหาก น่ารักเนอะ

 

Ging Suppawan Borwornwiriyapan เคยไปซื้อไฟฉาย และถ่าน เพื่อจะใช้ในงานรับน้อง ไปกับเพื่อนอีกคน เลยจะซื้อ 2 ชุด ไฟฉายด้ามจิ๋วกระบอกละ 20 บาท ถ่าน AA 2 ก้อน ก้อนละ 8 บาท รวมทั้งหมดเป็นชุดละ 36 บาท เจ๊จีฉ่อยพูดว่า เอางี้คิดไปคนละ 40 บาทแล้วกัน เรากับเพื่อนมองหน้ากัน... เอิ่ม เจ๊แกเก่งวิชาคณิตศาสตร์เรื่องของการปัดเศษมากๆ

 

Panuwat Thai เทียนพรรษาก็มี แต่เท่าที่เคยฟังมา มีอย่างเดียวที่ไปซื้อแล้วไม่ได้ คือหลอดแบ็คไลต์ จีฉ่อย ไม่รู้จัก

 

Fon Suteeta Suksompong ตอนช่วงเล่นละครคณะเราของปีนึง ฝนได้ไปขายลูกชิ้นทอดที่ข้างหอประชุม โดยใช้เตาแก๊สปิ๊กนิคของคณะทอด แล้วอยู่ๆ วันนึงหัวเตาแก๊สที่เป็นโครงเหล็กสำหรับใช้วางกระทะก็หายไป เหลือไว้แต่ถังแก๊สพร้อมแก๊สในถังให้ดูต่างหน้า ในเวลาช่วงบ่ายใกล้เย็นที่ใกล้เวลาละครเล่นเต็มที ก็ไม่รู้จะไปหาซื้อที่ไหนเวลาก็ไม่มี ใกล้เวลาต้องขายแล้ว เลยเอาวะลองถามป้าจีฉ่อยแกดูดีกว่า พอไปถึงร้านบอกป้าจีถึงของที่ต้องการ ปรากฏว่าป้าแกบอกเราให้รอแป๊บนึง แล้วแทรกตัวผอมๆ ของแกหายไปในตัวตึกที่ขนาบด้วยของทั้ง 2 ข้างที่สูงแทบจะถึงเพดานเลยก็ว่าได้ ขณะยืนรอ ในใจก็ลุ้นขอให้มีเหอะวะ ผ่านไปน่าจะเกือบ 10 นาทีจนแอบคิดว่าแกแอบทะลุออกหลังร้านไปหาซื้อที่อื่นมาให้รึเปล่า แล้วแกก็เดินออกมาพร้อมหัวเตาแก๊สปิคนิคในมือ "50 บาท" พร้อมกับยื่นหัวเตาแก๊สให้เรา เราก็จ่ายเงินพร้อมรับของมา ขณะเดินกลับคณะก็สำรวจของในมือพบว่า สภาพน่าจะผ่านการใช้งานมาแล้วชัวร์ ต้องเป็นของป้าแกเองแน่ๆ แต่ก็เอาอยู่ดี ทำไงได้มันจำเป็นต้องใช้นี่นา แล้วเท่าที่นึกดูร้านแก๊สแถวนี้ก็ไม่มีซะด้วย

 

Patcharee Lertkumpesil ยังจำได้ว่าแกมีหลานสาวขาวสวยหมวยเอ็กซ์ที่เลี้ยงลูกหมาน่ารักขนฟูขาวสะอาด อยู่ในร้านที่คับแคบอัดแน่นไปด้วยกองภูเขาและฝุ่นละออง

 

Kamonkan Jaroensuk เคยไปซื้อของและต่อราคาเป็นภาษาจีน คุณป้าแกเลยลดราคาให้เยอะเลยคะ อีกเรื่องคือนอกจากร้านจีฉ่อยจะมีทุกอย่างขายแล้ว ยังมีการขยาย Product Line ไปสู่การบริการนิสิตจุฬาควบวงจร เพราะมีบริการรับแปลภาษาต่างๆ ด้วย ทั้งงานใหญ่งานเล็กหรือการบ้านอังกฤษ จีฉ่อยจัดให้ได้หมดค่ะ

 

รัชนี หัทยาสมบูรณ์  จีฉ่อย = โดเรม่อน นะ ขวัญใจของนิสิต

 

Dew Ularnkul ร้านจีฉ่อยนี่เรียกได้ว่าขายทุกอย่างตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบจริงๆ สมัยที่เรียน Thai Ticket Major/Master อะไรนั่นยังไม่มี (หรือเพิ่งจะมี) เพราะงั้นถ้าหาตั๋วคอนเสิร์ตอะไรไม่ได้แวะไปจีฉ่อย ป้าก็สามารถจัดหาให้ได้เช่นกันค่ะ

 

Supoj Pongpancharoen ลือกันว่า "จีฉ่อย" แปลว่า "Good Choice" เคยไปซื้อสีสเปรย์มาทำพานไหว้ครูตอนปีหนึ่ง เวลาเลยเที่ยงคืนไปแล้ว ต้องไปกดกริ่งหลังร้าน จีฉ่อยก็ลงมาขายให้โดยไม่บ่นซักคำ แถมยังถามว่าจะให้เดินไปส่งมั้ย เพราะตรอกหลังร้านมันมืด ประทับใจจนทุกวันนี้ครับ

 

Paween Goff Purijitpanya ผมกับเจ๊หม่ามไปซื้อปิ๊คกีตาร์ 50 อัน (จะเอามาแจกในการแสดง) จีฉ่อยอวยพรบอกว่าขอให้เทปขายดีๆ นะ -*-

 

Kittiphong Dumavibhat เคยตัดสินใจเดินเข้าไปในจีฉ่อยโดยไม่ฟังเสียงทัดทาน เจ๊จีฉ่อยร้องลั่นมาจากหน้าร้านว่า "จ๊ากกก ลื้อเข้าไปไม่ได้" แต่ทำไม่สน เดินอย่างรวดเร็ว เข้าไปลึกๆ เจอหญิงชราร่างท้วม ผมขาว ตาแดงก่ำ นั่งอยู่บนตั่ง ทำให้ต้องหันหลังกลับแล้วจ้ำออกมาอย่างรวดเร็ว ไม่คิดชีวิต สาบานได้ว่าน่ากลัวและเป็นเรื่องจริง

 

อรชร ตั้งวงษ์เจริญ ตอนรับน้องใหม่ ทำซุ้มอยู่ถึงเที่ยงคืน จึงรู้ว่าขาดลิปสติก จะไปร้านไหนเขาคงปิดกันหมดแล้ว (เพราะสมัยนั้นไม่มีโลตัส ไม่มี 7-11) เลยไปแย้มๆประตูเหล็กร้านจีฉ่อย ที่ทำท่าจะปิด ไม่ปิดดี ความจริงแกก็รู้ว่าถ้ามีงานรับน้องใหม่แบบนี้ ใคร ๆ ก็ต้องหาของ แกจึงทำทีเปิดแบบอยากปิดไงละ แล้วแกก็งัวเงีย บอกพรุ่งนี้ตีห้า ให้มาใหม่ จะหาให้ บอกไปว่าต้องได้นะ แกบอกไม่ต้องห่วงให้มาตามนัดแล้วกัน พอเช้าหกโมงไป แกเอาวางไว้หน้าโต๊ะเก็บสตังค์ของแก โฮ...เป็นคนมีสัจจะ ไม่ผิดคำพูดเลยละ.....แถมงกคงเส้น คงวา เพราะราคาของบวกอีกหลายอยู่

 

บอร์นทูบี เกียรติกวานกุล เคยโดนป้าเขาเรียกว่า อาจารย์ ทั้งๆ ที่อยู่ปี1 เทอม1เท่านั้นเองคะ จะเศร้าก็เศร้า จะขำก็ขำ

 

Art Pichaya พี่จิก ประภาส ชลศรานนท์ เคยบอกทำนองว่า กูเกิล ลอก บิสิเนสโมเดล ของ จีฉ่อย ..เพราะหาอะไรก็เจอ

 

Ornravee Hall เคยซื้อเสื้อขาวตราห่านคู่บ่อย เท่าที่จําได้ไม่เคยซื้ออย่างอื่นจากจีฉ่อยเลย มีอยู่วันนึงเดินเข้าไปในร้านยังไม่ทันจะเอ่ยปากว่าจะขอซื้อไม้บรรทัดหรือไรซักอย่าง แกยืนเสื้อห่านคู่ให้ก่อนเลย

 

Sarawee Aey ตอนทำฉากละครเรื่อง "วิเศษนิยม" เคยไปขอซื้อตะปู 3 นิ้วจากจีฉ่อยครับ แกบอกว่ารอแป๊บ แต่ "แป๊บ" ของจีฉ่อยเป็นที่รู้กันว่า อยู่ในสนามความจริงที่บิดเบือน คล้ายๆ กับสตีฟ จ๊อบเลยทีเดียว ด้วยความเกรงใจเลยบอกว่าเดี๋ยวไปกินสามย่านก่อนแล้วค่อยกลับมาเอา เจ๊บอกว่า ไม่ต้องหรอก จะกินอะไรกัน เลยบอกว่าจะกินข้าวผัด คราวนี้ได้เรื่องครับ แกบอกคำเดียวว่า "แป๊บ" แล้วเดินหายเข้าไปในร้านทันที ...หลังจากนั้นอีกเกือบ 20 นาทีต่อมา เจ๊ก็เดินออกมาจากหลังร้านพร้อมข้าวผัดหนึ่งกล่อง ในขณะที่ผู้ชายในร้าน (ไม่รู้ว่าเป็นไรกะแก) ขี่มอเตอร์ไซค์กลับมาพอดี พร้อมกับหิ้วถุงตะปูมาด้วย ?!?! สรุป ตะปูครึ่งกิโล กับข้าวผัด 1 กล่อง ใช้เวลาในการซื้อไป 1 ชั่วโมงเต็ม T T

 

วราภรณ์ เกียรติชัยวณิชย์ เคยแกล้งไปขอซื้อราดหน้า ก็ได้ราดหน้ามาเช่นกัน แต่!!ใช่ว่าแกจะขายทุกอย่างนะ จำได้ว่า ไปขอซื้อของเล่นสังกะสี ที่เขาวางไว้ในตู้หน้าร้าน ไปกี่ครั้งๆ ก็ไม่ยอมขาย หวงน่าดูเชียว

 

Amornpan Taweesinudom ถ้าจำไม่ผิดจะซื้อคอมพิวเตอร์ แกถามว่า 

ลื้อจาเอาสเป็คอาราย 

 

Khun Bireley จีฉ่อย...มีทุกอย่างที่นิสิตจุฬาฯ ต้องการ

 

Nid Bussayarat Chaijirawiwat ที่รัานจีฉ่อยมีตุ๊กตาไขลานที่เป็นเด็กขี่จักรยานมีลูกโป่งอยู่1ลูกอยู่ในตัวกระจกหน้าร้าน ..จำได้ว่าตอนอยู่ปีหนึ่งเราอยากได้ จะขอซื้อ เจ้าของร้านบอกยังไม่ขายเพราะทำกุญแจหายเปิดตู้ไม่ได้ เจอกุญแจเมื่อไหร่จะขายให้ ..พอเราอยู่ปีสี่เจ้าตุ๊กตาตัวนี้ยังอยู่ที่เดิม เราก็ถามอีกว่าเจอกุญแจรึยัง เจ้าของร้านบอกยังไม่เจอ ไว้เจอแล้วจะขายให้ ..ผ่านไปจนปี 2554 เราไปถามอีกครั้งเจ้าของร้านก็ยังบอกหากุญแจยังไม่เจอเลย..คิดดูสิตุ๊กตาไขขานตัวนี้ซีดแล้วซีดอีก มันก็ยังอยู่ที่เดิมอยู่เลย

 

Manop Yaemutai สั่งซื้อกิโมโน ก็ได้วองภายในสามวัน // หรือตั๋วเครื่องบินก็ไปหามาให้ ที่คู่กับ จีฉ่อย ก็ต้อง โรงจำนำฮะติ๊ดหลี

 

 อ้อ..ตอนนี้ จีฉ่อย ย้ายเข้าซอยไปอยู่ใน u-center แล้ว--หรูหน่อย


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1331460147&grpid=01&catid=&subcatid= 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น