วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

นาถกรณธรรม 10 ประการ (สังคีติสูตร) คือ ธรรมทำที่พึ่ง 10 อย่าง

ในทางพุทธศาสนาได้แสดงไว้ถึงลักษณะของคนหลายประเภท เช่น คนถ่อย คนลามก คนเสื่อม คนดี คนฉลาด (นักปราชญ์) 
ซึ่งผู้เขียนได้นำมาจากธัมมานุกรม คบธรรม โดย พ.อ.ทวิช เปล่งวิทยา เป็นผู้รวบรวมจากคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา

วันนี้จึงขอนำมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อว่าเวลาที่ใครเขาชม หรือตำหนิเราจะได้สบายใจว่า ใช่แล้ว ... เราเป็นคนเช่นนั้น หรือไม่ใช่หรอกเขาเข้าใจผิดแล้ว ...

ลักษณะของคนเสื่อม 12 ประการ (ปราภวสูตร) ได้แก่


1.มีอสัตบุรุษเป็นที่รักและชอบใจธรรมของอสัตบุรุษ 

2.เป็นคนชอบนอน ชอบคุย ไม่หมั่น เกียจคร้าน โกรธง่าย 

3.มีความสามารถ แต่ไม่เลี้ยงดูมารดา หรือบิดาผู้แก่เฒ่า 

4.ลวงสมณพราหมณ์ หรือแม้วนิพกอื่นด้วยมุสาวาท 

5.คนมีทรัพย์มากมีเงินทองของกิน กินอร่อยแต่ผู้เดียว 6.คนใดหยิ่งเพราะชาติ เพราะทรัพย์ เพราะโคตร แล้วดูหมิ่นญาติของตน

7.คนใดเป็นนักเลงหญิง นักเลงสุรา นักเลงการพนันผลาญทรัพย์ที่ตนหามาได้ 

8.คนไม่สันโดษด้วยภริยาของตน ประทุษร้ายภริยาของคนอื่นเหมือนประทุษร้ายหญิงแพศยา 

9.ชายแก่ได้หญิงรุ่นสาวมาเป็นภริยาย่อมนอนไม่หลับเพราะความหึงหวง 

10.คนใดตั้งหญิงนักเลงสุรุ่ยสุร่าย หรือแม้ชายเช่นนั้นไว้ในความเป็นใหญ่ 

11.บุคคลผู้เกิดในสกุลกษัตริย์ มีโภคทรัพย์น้อย 

12.มีความมักใหญ่ปรารถนาราชทรัพย์

นอกจากนั้นยังมีลักษณะของคนถ่อย 20 ประการ (วสลสูตร) ได้แก่


1.คนมักโกรธ ผูกโกรธ ลบหลู่ มีทิฐิวิบัติ และมีมายา

2.คนผู้เบียดเบียนสัตว์ ไม่มีความเอ็นดูในสัตว์

3.คนผู้เบียดเบียน ปล้น ฆ่าชาวบ้านและชาวนิคม

4.คนผู้ลักทรัพย์ของผู้อื่นที่เขาไม่ได้อนุญาตในบ้านหรือในป่า

5.คนที่กู้หนี้มาใช้แล้ว กลับความว่าหาได้เป็นหนี้ท่านไม่

6.คนที่ฆ่าคนเดินทาง ชิงเอาสิ่งของ เพราะอยากได้สิ่งของนั้น

7.คนที่เป็นพยานแล้วกล่าวคำเท็จเพราะเหตุแห่งตน ผู้อื่น หรือ ทรัพย์

8.ผู้ประพฤติล่วงเกินในภริยาของญาติ หรือของเพื่อนด้วยข่มขืน หรือด้วยการร่วมรักกัน

9.คนผู้สามารถ แต่ไม่เลี้ยงมารดา หรือบิดาผู้แก่เฒ่า

10.คนผู้ทุบตี ด่าว่าบิดา มารดา พี่ชาย พี่สาว แม่ยาย พ่อผัว แม่ผัว

11.คนผู้ถูกถามถึงประโยชน์พูดกลบเกลื่อนเสียบอกแต่สิ่งไม่เป็นประโยชน์

12.คนทำกรรมชั่วแล้ว ปรารถนาว่าใครอย่าพึงรู้ปกปิดไว้

13.คนผู้ไปสู่สกุลอื่นแล้ว บริโภคโภชนะที่สะอาด แต่ไม่ตอบแทนเขาผู้มาสู่สกุลของตน

14.คนผู้ลวงสมณพราหมณ์ หรือแม้วนิพกอื่นด้วยมุสาวา

15.คนผู้ด่าสมณพราหมณ์เวลาบริโภคอาหาร หรือไม่ให้โภชนะ

16.คนผู้ถูกโมหะครอบงำ ปรารถนาของเล็กน้อย พูดอวดสิ่งที่ไม่มี

17.คนเลวทราม ยกตนข่มผู้อื่นด้วยมานะของต

18.คนผู้มีความปรารถนาลามก มีความตระหนี่ โอ้อวด ไม่ละอายสะดุ้งกลัว

19.คนติเตียนพระพุทธเจ้า สาวกของพระพุทธเจ้า บรรพชิต หรือ คฤหัสถ์

20.ผู้ไม่ได้เป็นพระอรหันต์ แต่ปฏิญาณตนว่าเป็นพระอรหันต์

ลักษณะของคนดี 10 ประการ ได้แก่


1.เป็นผู้เว้นขาดจากปาณาติบาต 
2.เป็นผู้เว้นขาดจากอทินนาทาน

3.เป็นผู้เว้นขาดจากกาเมสุมิจฉาจาร 
4.เป็นผู้เว้นขาดจากการมุสาวาท

5.เป็นผู้เว้นขาดจากการพูดส่อเสียด 
6.เป็นผู้เว้นขาดจากการพูดคำหยาบ

7.เป็นผู้เว้นขาดจากการพูดเพ้อเจ้อ 
8.เป็นผู้ไม่โลภอยากได้ของเขา

9.เป็นผู้ไม่พยาบาทปองร้ายเขา 
10.เป็นผู้เห็นชอบตามทำนองคลองธรรม

ส่วนผู้ที่มีลักษณะตรงกันข้ามท่านเรียกว่า คนลามก (แสดงไว้ใน บุคคลบัญญัติปกรณ์) นักปราชญ์ (คุหัฏฐกสุตตนิทเทส) คือ ผู้ที่ได้ยกย่องว่า

1.ความเป็นผู้มีปัญญาถึงพร้อมด้วยความทรงจำ ความรู้ทั่ว ความเข้าไปกำหนด ความเป็นบัณฑิต ความเป็นผู้ฉลาด

2.ความเป็นผู้มีปัญญาเครื่องจำแนก เข้าไปเห็น กว้างขวางดุจแผ่นดิน เป็นเครื่องทำลายกิเลส นำไปรอบ เครื่องเห็นแจ้ง

3.ความเป็นผู้มีปัญญาเครื่องรักษาตน

4.ความเป็นผู้มีปัญญา ในขันธ์ ธาตุ อายตนะ ปฏิจจสมุปบาท สติปัฏฐาน สัมมัปปธาน อิทธิบาท อินทรีย์ พละ โพชฌงค์ มรรค ผล นิพพาน

ก่อนจบขอแถม นาถกรณธรรม 10 ประการ (สังคีติสูตร) คือ ธรรมทำที่พึ่ง 10 อย่าง ได้แก่

1.เป็นผู้สำรวมในพระปาฏิโมกข์ ถึงพร้อมด้วยอาจาระและโคจระ

2.เป็นผู้มีธรรมอันสดับมาก ทรงจำ คล่องปาก แทงตลอดด้วยดี

3.เป็นผู้มีมิตรดี สหายดี

4.เป็นผู้ว่าง่าย ประกอบด้วยธรรมที่ทำให้เป็นผู้ว่าง่าย และเป็นผู้อดทน

5.เป็นผู้ขยันไม่เกียจคร้าน สามารถจัดกรณีกิจในเพื่อนสพรหมจารี

6.เป็นผู้ใคร่ในธรรม เจรจาน่ารัก

7.เป็นผู้สันโดษด้วยปัจจัย 4 ตามได้

8.เป็นผู้ปรารถนาความเพียร เพื่อละอกุศล และยังกุศลให้เกิด

9.เป็นผู้มีปัญญาเครื่องรักษาตน แม้สิ่งที่ทำหรือพูดมานานก็ระลึกได้

10.เป็นผู้มีปัญญา เห็นความเกิดและดับ ชำแรกกิเลสให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น