The NATURE Series รวมพลัง′ศิลปินรักษ์ธรรมชาติ′
วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เวลา 10:43:38 น.
 | โดย ศิวพร อ่องศรี
เช่นงานของกลุ่ม "ศิลปินรักษ์ธรรมชาติ" ที่เกิดจากพลังรักธรรมชาติของศิลปินที่ได้พบเห็นร่องรอยความงามใหม่ คอยกระตุ้นเตือนให้แสดงพลังอำนาจโดยแสดงออกผ่านสื่อศิลปะ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ผลงานด้วยลีลาของเส้น และสีบนพื้นระนาบที่เหมาะสม ตามอัตลักษณ์เฉพาะตน เพื่อสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่จะสามารถเป็นสารนำพาให้ผู้คนหันมาใส่ใจรักษาและป้องกันธรรมชาติให้คงอยู่ตลอดไป เป็นที่มาของโครงการ นิทรรศการทัศนศิลป์ ครั้งที่ 8 ชุด ธรรมชาติ (8th Visual arts exhibition. "The nature series") ที่ศิลปินรักษ์ธรรมชาติ 20 คน อาทิ เกษม ก้อนทอง, วิจัย ไร่ทิม, ดำริห์ คงชาติ, สุรพล แสงอรุณ, สมภูมิ อุทัยไพศาลวงศ์, ภานุวัฒน์ สายสนิท, อุส่าห์ คงคร้าม, เพิ่มศักดิ์ อาบทิพย์, ประชา ยินดี, สี แสงอินทร์, ยุทธนา พงศ์ผาสุก, ชัยภัฏ บุญช่วยส่ง, บุณฑริกา ชวกุล, ณิชกมล จิรภาไพศาล, คมสันต์ คำสิงหา, โกเมนทร์ สารพิมพา, สายรุ้ง องค์ธนาศิริกุล, วรรณี รัตนพล, พิมบุญ วงศ์มีศักดิ์ และพิณ ภักดีบุตร ร่วมกับ หอศิลป์เซเว่นรังสรรค์ นำผลงานทัศนศิลป์ออกเผยแพร่สู่สาธารณชน
วัตถุประสงค์เพื่อใช้สื่องานทัศนศิลป์กระตุ้นเตือนให้ประชาชนได้มองเห็นความงามของธรรมชาติ ที่มีความหลากหลายหลายมุมมอง และนำรายได้จากการจำหน่ายภาพส่วนหนึ่งเป็นทุนการศึกษาของนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตเพาะช่าง เกษม ก้อนทอง หนึ่งในศิลปินรักษ์ธรรมชาติ เล่าถึงที่มาของโครงการนี้ว่า กลุ่มศิลปินรักษ์ธรรมชาติเป็นศิษย์เก่ารุ่นเพาะช่าง รุ่นปี พ.ศ.2516-2519 มีรุ่นเดียวกันเป็นคณะวิจิตรศิลป์ มีสาขาจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ ที่มารวมตัวกันสร้างสรรค์ผลงานเพื่อเผยแพร่สู่สาธารณชน และนอกจากนี้ยังมีลูกศิษย์เข้ามามีส่วนร่วม นำผลงานมาจัดแสดงอีกด้วย รวมทั้งหมด 100 ภาพ "เราต้องการเผยแพร่ผลงานทัศนศิลป์เกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเราส่งเสริมสนับสนุนศิลปะเด็กและเยาวชน และรายได้ส่วนหนึ่งจะเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนเพาะช่าง และที่สำคัญศิลปะวัฒนธรรมเป็นของทุกคน เพื่อชุมชนและสังคม นี่คือวัตถุประสงค์ของกลุ่มศิลปินรักษ์ธรรมชาติ" เกษมเล่า
เกษมเล่าอีกว่า ผลงานทัศนศิลป์ที่นำมาจัดแสดงนั้นจะแบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ จิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ และสื่อผสม ผลงานต่างๆ นั้นเป็นตัวตนเฉพาะของศิลปิน และโครงการในปี พ.ศ.2556 เป็นปีที่ส่งเสริมการจัดประกวดศิลปะเด็กที่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสาคร โดยจะนำเด็กไปวาดภาพและตัดสิน และโครงการที่ 2 จะนำศิลปะไปสู่อาเซียน โดยในปีหน้าจะเดินทางไปยังเมืองหลวงพระบาง ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อไปวาดภาพและจะนำมาจัดแสดงในเดือนพฤศจิกายนในทุกๆ ปี "ท่านพุทธทาสภิกขุบอกว่า ธรรมชาติคือธรรมะ และธรรมชาติในความรู้สึกของศิลปินคือ อยากเอาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาเผยแพร่ ในหัวข้อที่เป็นวัตถุประสงค์ของเรา ซึ่งนิทรรศการที่ผ่านมาได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก และเรามีจุดประสงค์ที่จะแสดงผลงานศิลปะทุกปี ตอนนี้กำลังจัดทำโครงการศิลปกรรมอาเซียน โดยจะเดินทางท่องเที่ยวธรรมชาติและวาดรูปภาพเพื่อนำมาจัดแสดงที่กรุงเทพฯ และนำไปจัดแสดงในแต่ละประเทศ" เกษมเล่า เกษมยังบอกอีกว่า ที่เราต้องการนำเสนอธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนั้น เราไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับการเมือง เพราะการเมืองสร้างความแตกแยกของกลุ่มต่างๆ แต่ธรรมชาติให้ความสามัคคีของกลุ่มที่มีเจตนารมณ์เดียวกันคือ ความงามของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่นำมาเพื่อสร้างสรรค์ผลงานร่วมกัน ทำให้เกิดความสุขในทุกกลุ่มต่างๆ ไม่มีการขัดแย้ง "เราคงปฏิเสธไม่ได้ที่ประเทศใดที่มีการพัฒนา ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมคงต้องหดหายไป สังเกตได้ชัดเจนว่า ชานเมืองกรุงเทพฯ เมื่อก่อนจะมีเรือพายมีธรรมชาติที่สวยงาม แต่ปัจจุบันความเจริญได้เข้าแทรกซึมไปทุกหย่อมหญ้า ความงามของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจึงได้ลดลงและหดหายไปในที่สุด โลกจะต้องมีการพัฒนาและอนุรักษ์ควบคู่กันจึงจะมีความสมดุล และถ้าไม่เอาความเจริญเราก็จะสู้ในระบบอาเซียนไม่ได้ ถ้าเอาความเจริญมากไปธรรมชาติก็ถูกทำลาย ดังนั้น ควรจะอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากกว่าที่จะนำความเจริญเข้ามาแทนที่ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม" เกษมบอก นิทรรศการทัศนศิลป์ ครั้งที่ 8 เริ่มจัดแสดงนิทรรศการตั้งแต่เวลา 10.00 - 18.00 น. วันนี้จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ ที่หอศิลป์เซเว่นรังสรรค์ ชั้น 1 อาคารธาราสาทร ซอยสาทร 5 หน้า 21,มติชนรายวัน ฉบับวันพุธที่ 21 พฤศจิกายน 2555 |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น