ได้รับเอกสารปึกหนึ่งทางไปรษณีย์ พลิกอ่านดูอย่างละเอียดพบว่า มีเนื้อหาเกี่ยวกับภารกิจของ
นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุดในวันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งไม่น่าจะเป็นเรื่องแปลก ถ้าเอกสารชุดดังกล่าวไม่ระบุภารกิจของประธานศาลปกครองสูงสุดพร้อมกัน 2 งานในวันเวลาเดียวกัน แต่อยู่คนละจังหวัด
ภารกิจแรก เป็นพิธีอัญเชิญยอดฉัตรทองคำลูกแก้วมงคลนิมิต ประดิษฐานบนพระธาตุเจ้าจอมล้านนา วัดพิพัฒน์มงคล ต.ทุ่งเสลี่ยม อ.ทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย เวลา 10.59 น.
ในเอกสารระบุกำหนดการของคณะที่จะเดินทางออกจากอาคารศาลปกครอง กทม.ไปยังจังหวัดสุโขทัยในเช้าวันที่ 27 กรกฎาคม ค้างหนึ่งคืน จากนั้นวันที่ 28 กรกฎาคม จึงประกอบพิธีโดยระบุว่า เวลา 10.59 น. เวลาฤกษ์มหามงคลอัญเชิญยอดฉัตรฯโดยประธานศาลปกครองสูงสุด
ภารกิจที่สอง กำหนดการเดินทางไปปฏิบัติราชการศาลปกครองพิษณุโลกของประธานศาลปกครองสูงสุดและคณะ(รวม 3 คน)ระหว่างวันที่ 27-28 กรกฎาคม 2555 ทั้งนี้ระบุเวลา การตรวจสอบผลการบริหารจัดการคดีของศาลปกครองพิษณุโลกตามนโยบายที่ได้มอบหมายและสอบทานภารกิจที่ได้ดำเนินการไปแล้วเพิ่มเติมในเวลา 9.00-11.30 น.
ในเอกสารระบุกำหนดการเดินทางของประธานศาลปกครองสูงสุดและคณะ (ประกอบด้วย น.ส.จิน แสงจันทร์ รักษาการผู้อำนวยการกลุ่มเลขานุการตุลาการศาลปกครองสูงสุดและนายสนธยา พงษ์สุริยะวรรณ เจ้าหน้าที่ศาลปกครองชำนาญการพิเศษ) ว่า เดินทางด้วยสายการบินนกแอร์เที่ยวบิน DD 8420 เวลา 20.05 น. วันที่ 27 กรกฎาคม จาก กทม.ไปพิษณุโลก ค้างหนึ่งคืน
เช้าวันที่ 28 กรกฎาคม เวลา 8.45 น. เดินทางถึงศาลปกครองพิษณุโลก คณะให้การต้อนรับ
เวลา 9.00-11.30 น. ตรวจสอบผลการบริหารจัดการคดีของศาลปกครองพิษณุโลกฯ
เวลา 11.30 น.รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารบริเวณท่าอากาศยาน
เวลา 12.20 น.ออกเดินทางไปยังท่าอากาศยานพิษณุโลก
เวลา 13.10 น. ออกเดินทางกลับ กทม.ด้วยสายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD8409
นอกจากเอกสารกำหนดการทั้ง 2 ภารกิจ ที่กำหนดวันเวลาพร้อมกัน แต่อยู่คนละจังหวัดที่อยู่ห่างกันไม่น้อยกว่า 60 กิโลเมตรแล้ว ยังมีบันทึกข้อความของสำนักบริหารกลาง กลุ่มอำนวยการและประสานราชการนำเสนอเรื่องการเดินทางไปปฏิบัติราชการศาลปกครองพิษณุโลกของประธานศาลปกครองสูงสุด มีการนำเสนอให้เบิกค่าใช้จ่าย "เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติภารกิจของศาลปกครองหรือเพื่อเกียรติแห่งประธานศาลปกครองสูงสุดที่จะขออนุมติเบิกค่าใช้จ่ายจากเงินรับรองของประธานศาลปกครองสูงสุดจำนวน 20,000 บาทโดยจะเบิกตามที่จ่ายจริง และยังมีค่าเครื่องบินไป-กลับอีกรวม 12,357.30 บาท"
คำถาม(จากข้อเท็จจริงตามเอกสาร) คือ นายหัสวุฒิจะแยกร่างปฏิบัติภารกิจในวันเวลาที่ทับซ้อนกันในจังหวัดที่ห่างกันไม่ต่ำกว่า 60 กิโลเมตรได้อย่างไร
ภารกิจแรก การอัญเชิญยอดฉัตรทองคำ เป็นเรื่องส่วนตัวของประธานศาลปกครองสูงสุดที่ต้องการทำบุญเพื่อทำนุบำรุงพระศาสนา ซึ่งแน่นอนว่าไม่สามารถเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าที่พัก และค่าใช้อื่นๆ "เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติภารกิจของศาลปกครองหรือเพื่อเกียรติแห่งประธานศาลปกครองสูงสุด" ได้
ภารกิจที่สอง เป็นการปฏิบัติราชการซึ่งประธานศาลปกครองสูงสุดมีสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายต่างๆตามพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ
อาจไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้านายหัสวุฒิยกเลิกภารกิจอัญเชิญยอกฉัตรทองคำที่จังหวัดสุโขทัย แล้วปฏิบัติราชการตรวจสอบผลการบริหารจัดการคดีของศาลปกครองพิษณุโลกฯเพียงอย่างเดียว
แต่จากการตรวจสอบเว็บไซต์ของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร (http://www.law.nu.ac.th/photos/28072012/index.html) พบว่า มีรูปถ่ายพิธีอัญเชิญยอดฉัตรทองคำที่มีนายหัสวุฒิ เป็นประธานถึง 25 รูปซึ่งจัดโดย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรโดยมีคำบรรยายภาพดังนี้
"วันที่ 28 กรกฎาคม 2555 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร นำโดย ผศ.ดร.บุญญรัตน์ โชคบันดาลชัย ผศ.จิรประภา มากลิ่น พร้อมด้วยคณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนิสิต เข้าร่วมพิธีอัญเชิญยอดฉัตรทองคำลูกแก้วมงคลนิมิต ประดิษฐานบนพระธาตุเจ้าจอมล้านนา วัดพิพัฒน์มงคล ตำบลทุ่งเสลี่ยม อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย โดยมี ผศ.ดร.หัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานในพิธี"
คำถามต่อมา ข้อเท็จจริงจากรูปถ่ายและคำบรรยาย ยืนยันว่า ในวันที่ 28 กรกฎาคม( ตามเวลามหาฤกษ์คือ 10.59 น.) นายหัสวุฒิอยู่จังหวัดสุโขทัย แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปปฏิบัติราชการที่ จ.พิษณุโลกซึ่งอยู่ห่างกันไม่ต่ำกว่า 60 กิโลเมตรในเวลาที่ทับซ้อนกัน
เพราะในเวลา 13.10 น. นายหัสวุฒิและคณะต้องขึ้นเครื่องบินกลับ กทม.แล้ว (เว้นแต่จะเปลี่ยนตั๋วแล้ว เดินทางกลับเครื่องบินเที่ยวเย็นหรือค่ำ)
คำถามต่อมา ถ้านายหัสวุฒิใช้เวลาไปอัญเชิญยอดฉัตรทองคำซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัว จนไม่ได้ปฏิบัติราชการ มีการเบิกค่าใช้จ่ายจากราชการ "เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติภารกิจของศาลปกครองหรือเพื่อเกียรติแห่งประธานศาลปกครองสูงสุด" จำนวน 20,000 บาท รวมถึงค่าเครื่องบินกว่า 12,000 บาทหรือไม่
ถ้ามีการเบิกค่าใช้จ่ายจากทางราชการ สามารถทำได้หรือไม่ เป็นการปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่?
เคยมีกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เคยมีมติวินิจฉัยเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2554 ว่า คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา อดีตผู้ว่าการการตรวจเงินแผ่นดินและพวก มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดมาแล้ว กรณีที่มีการอ้างว่า นำเจ้าหน้าที่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กว่า 100 คนไปร่วมงานสัมมนาเรื่อง "สตง.ในความคิดเห็นของสมาชิกวุฒิสภา" ที่ จ.น่าน เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2546 ขณะเดียวกันก็จัดถวายผ้าป่าพระกฐิน พระราชทานประจำปี 2546 ในวันเดียวกัน โดยเบิกค่าใช้จ่ายทั้งค่าเดินทาง อาหารและค่าที่พักจากทางราชการทั้งหมดหลายแสนบาท
จากข้อเท็จจริงจากการไต่สวนพบว่า มีการจัดงานถวายผ้าป่าในวันดังกล่าวจนถึงเวลา 4 โมงเย็นและไม่มีการจัดสัมมนา แต่ไปจัดงานเลี้ยงที่บ้านสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดน่าน
จากข้อเท็จจริงดังกล่าว คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงมีมติว่า คุณหญิงจารุวรรณและพวกมีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
ได้แต่หวังว่า กรณีที่เกิดขึ้นกับประธานศาลปกครองสูงสุด อย่าให้ซ้ำรอยกับคุณหญิงจารุวรรณเลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น