อ่านข่าวในสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ซึ่งรายงานว่า มีบริษัทสื่อสารยักษ์ใหญ่รายหนึ่งนำโทรศัพท์เคลื่อนที่ I Phone 4s 64 GB รุ่นใหม่ล่าสุดราคาเกือบ 30,000 บาทมาเป็นของขวัญสำหรับแจกให้กับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)ในงานจัดเลี้ยงและกีฬาประจำปีและยังพยายามเร่เอาโทรศัพท์รุ่นและยี่ห้อเดียวกันไปเป็นของกำนัลให้แก่กรรมการ กสทช.อีกด้วย
จากข่าวดังกล่าวแบ่งข้อเท็จจริงออกเป็น 2 กรณี
กรณีแรก ในการงานจัดเลี้ยงประจำปี มีบริษัทสื่อสารยักษ์ใหญ่และบริษัทคู่สัญญานำสิ่งของมาให้เจ้าหน้าที่ กสทช.จับรางวัล ในสิ่งของเหล่านั้นมีโทรศัพท์เคลื่อนที่ I Phone 4s 64 GBของบริษัทยักษ์ใหญ่อยู่ด้วย
จากการตรวจสอบข้อมูลมีเอกสารหลักฐานชัดเจนว่า มีการแจกของขวัญมูลค่าสูงเกินกว่า 3,000 บาทซึ่งได้รับมาจากบริษัทสื่อสารยักษ์ใหญ่และบริษัทคู่สัญญากับสำนักงาน กสทช. เพียงแต่ผู้บริหารระดับสูงพยายามปัดสวะให้พ้นตัวโดยอ้างว่า ไม่รู้ว่า ของขวัญดังกล่าวมีมูลค่าเท่าใด ใครเป็นผู้ให้ซึ่งขัดกับเอกสารหลักฐานอย่างชัดเจน
ในการจับรางวัลซึ่งผู้บริหารระดับสูงของสำนักงาน กสทช.เป็นผู้จับก็เห็นอยู่ทนโท่ว่า เป็นI Phone 4s 64 GB แต่ไม่รู้ว่า มีการตักเตือนห้ามปรามหรือแนะนำให้ดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามกฎระเบียบ กฎหมายหรือจริยธรรมที่ดีหรือไม่ หรือทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แต่ก็มีคนพยายามแก้ต่างให้ว่าเลขาธิการ ไม่รู้ไม่เห็นใดๆ
กรณีที่สอง ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านสื่อสารพยายามนำของขวัญและโทรศัพท์เคลื่อน I Phone 4s 64 GBไปเป็นของกำนัลให้ กรรมการ กสทช.ซึ่งประเด็นนี้ มีกรรมการ กสทช.บางรายยอมรับว่า ผู้บริหารระดับสูงของค่ายโทรศัพท์ยักษ์ใหญ่มีพฤติการณ์ดังกล่าวจริง แต่ไม่ได้รับไว้ บางรายปฏิเสธ จึงยังไม่มีข้อเท็จจริงเพียงพอว่า มี กสทช.รายใดรับ I Phone 4s 64 GB ไว้หรือไม่
ถ้ามี กสทช.บางรายแอบรับไว้จริง คงต้องรีบหาทางเอาไปคืนหลังจากที่ตกเป็นข่าวอื้อฉาว
การที่เจ้าหน้าที่ กสทช.หรือกรรมการ กสทช.รับ I Phone 4s 64 GB จากบริษัทยักษ์ใหญ่สื่อสารนั้นที่ผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงเพราะ กสทช.มีอำนาจหน้าที่โดยตรงในการกำกับกิจการด้านโทรคมนาคมหรือกำดูแลบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านสื่อสารให้ทำตามระเบียบและกฎหมายโดยตรง
แต่กลับรับของกำนัลมูลค่าสูงจากบริษัทซึ่งแน่นนอนว่า อาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าทที่ เพราะเกรงใจหรือสำนึกบุณคุณบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งนั้น
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารระดับสูงของสำนักงาน กสทช.ก็พยายามชักแม่น้ำทั้งห้ามาอ้างเพื่อให้เกิดความชอบธรรมหรือปัดความรับผิดชอบแสดงเห็นให้สำนึกด้านจริยธรรมของผู้บริหารสูงของสำนักงานแห่งนี้ว่า ยังมีอยู่หรือไม่
ถ้าผู้บริหารของสำนักงาน กสทช.ยังไม่สำนึก ฟื้นฟูจริยธรรมที่ตกต่ำของสำนักงาน ก็ควรที่ผู้ตรวจการแผ่นดินที่มีหน้าที่โดยตรงที่ต้องเข้าไปดำเนินการซึ่งถ้าผิดร้ายแรงก็สามารถส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ไต่สวนต่อไปได้
นอกจากผิดจริยธรรมแล้ว การรับของกำนัลมูลค่าสูงเช่นนี้ยังเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 103 ซึ่งบัญญัติว่า ห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดรับทรัพย์สินหรือประโยชนอื่นใดจากบุคคล นอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมาย หรือกฎ ข้อบังคับที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เว้นแต่การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดตามธรรมจรรยา ตามหลักเกณฑ์และจำนวนที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช.กำหนด
ทั้งนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.กำหนดไว้มิให้รับทรัพย์สินมูลค่าเกิน 3,000 บาท ผู้ที่ฝ่าฝืนมีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ต่อมาในการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้(พ.ศ.2554)บัญญัติเพิ่มเติมว่า การกระทำผิดดังกล่าว ให้ถือเป็นความผิดทุจริตต่อหน้าที่ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมตามประมวลกฎหมายอาญาด้วย(มาตรา 103/1)ซึ่งมีระวางโทษสูงตั้งแต่จำคุก1-10 ปี
จากเอกสารหลักฐาน การรับ I Phone 4s 64 GB และของขวัญอื่นๆที่มีมูลค่าสูงกว่า 3,000 บาท เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญค่อนข้างชัดเจน ในเอกสารหลักฐานดังกล่าวยังระบุชื่อรับและที่เกี่ยวข้องไว้ทั้งหมด ดังนั้น ถ้ามีการส่งเรื่องให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ไต่สวน คงหาข้อสรุปได้ไม่ยาก
แต่เชื่อขนมกินได้ว่า บรรดาผู้บริหารระดับสูงใน กสทช.คงโดดเอาตัวรอด ทิ้งให้เจ้าหน้าที่ตัวเล็กๆเป็นแพะอยู่ไม่กี่คน
Tags: ผู้บริหาร กสทช., ฝ่ายต่ำ, สำนึก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น