พท.เตรียมยื่นศาลปกครองระงับ "สุขุมพันธ์-กทม." ต่อสัญญาบีทีเอสยาว 30 ปี มูลค่า 2 แสนล้าน
วันที่ 05 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 11:02:12 น.
Share
| เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 5 พฤษภาคม ที่พรรคเพื่อไทย(พท.) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรค พท. แถลงถึงการอนุมัติ จ้างงานของ กรุงเทพมหานคร กับ เอกชนคือบริษัท กรุงเทพธนาคม และ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือรถไฟฟ้า BTS ที่ได้ขยายระยะเวลาให้เอกชนมากถึง 13 ปี ทั้งที่สัญญาสัมปทานของเอกชนยังเหลือเวลาอีกตั้ง 17 ปี เป็นการดำเนินการอย่างลุกลี้ลุกลน และ ขาดความโปร่งใส ในเรื่องผลประโยชน์ของสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการดำเนินการ ที่จะนำไปสู่การจัดจ้างวงเงินเกือบ 2 แสนล้านบาท หรือ วิธีการคำนวณความเป็นไปได้ทางการเงิน (Financial Analysis) ที่ควรจะอธิบายได้ก่อนการไปอนุมัติจ้าง อันอาจทำให้คนกทม.กว่า 10 ล้านคน เสียโอกาสจากการได้รับบริการที่เหมาะสม ตนจึงเห็นว่าสมควรที่จะต้องมีกระบวนการตรวจสอบอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อประโยชน์ของคน กทม. และปริมณฑล นายจิรายุ แถลงว่า ตนจึงขอตั้งข้อสังเกตถึงความรีบร้อน ว่าสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าของเดิม ส่วนแรก คือ ช่วงที่ 1 หมอชิต –อ่อนนุช และ ช่วงที่ 2 สนามกีฬา-สะพานตากสิน รวม 23 กม.นั้นสัญญาระบุว่าจะหมดสัญญาในปี พ.ศ.2572 และ ทรัพย์สินทั้งหมดจะตกมาเป็นของแผ่นดินแต่ มรว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่ากทม.กลับ ไปเซ็นต์สัญญาต่อให้เอกชนเพิ่มอีก 13 ปี เป็น 30 ปี ได้อย่างไรและเส้นทาง ส่วนที่ 2. ที่ลงทุนจากภาษีของประชาชนโดยกทม.เป็นผู้จัดสร้างเองจากสะพานตากสิน-วงเวียนใหญ่ และ จาก อ่อนนุช-แบริ่ง นั้น กทม.ก็ไปทำสัญญาให้เอกชนทำอีกถึง 30 ปี และส่วนที่ 3 วงเวียนใหญ่ – บางหว้า ที่กำลังก่อสร้างขนาดยังไม่เสร็จรถยังวิ่งไม่ได้ท่านก็ไปเซ็นต์ให้อีก 30 ปี ท่านรีบร้อนไปเพื่ออะไร ใครได้ประโยชน์ ประชาชนหรือเอกชน หรือ ใคร นายจิรายุ แถลงต่อว่า พรรค พท.ภาคกทม. จะติดตามตรวจสอบโครงการจ้างวงเงิน 1.9 แสนล้านนี้ว่า ผู้บริหาร กทม. เหตุใดจึงดำเนินการเช่นนี้ มีใครได้ผลประโยชน์หรือไม่ และ คน กทม ที่อุตสาห์เลือก ผู้ว่าจากพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)มาบริหารได้ดูแลผลประโยชน์ประชาชนจริงดังที่โฆษณาว่าทั้งชีวิตเราดูแลหรือไม่ เพราะดูแล้วการอนุมัติจ้างครั้งนี้ มีข้อสังเกตที่ผิดปรกติ "วันนี้พรรคฯตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 11 ท่าน โดยมี นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคเป็นประธาน ติดตามและตรวจสอบเรื่องนี้ ว่า มีใครได้ประโยชน์จากการเซ็นต์สัญญานี้ และจะเตรียมเอกสารเพื่อดำเนินการร้องศาลปกครองให้ระงับการเซ็นต์สัญญา และ รวบรวมเอกสาร เพื่อตรวจสอบเบื้องหน้าเบื้องหลังว่ามีผู้บริหาร กทม.คนใดไปมีส่วนเกี่ยวข้องในทางผลประโยชน์ กับการเซ็นต์สัญญาครั้งนี้อย่างไร นอกจากนี้ และจะตีแผ่โครงการ กว่า 29 โครงการของกทม.ที่ มีการมุบมิบทำกัน และส่อไปในการทุจริตโดยมีผู้บริหารระดับสูงของ กทม.เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหลายโครงการ อาทิ กล้องปลอม CCTV รถเรือดับเพลิง กทม.ที่วันนี้ใช้ปลูกสาระแหน่ อย่างเดียว การใช้งบประมาณอีกมากมายที่ส่อไปในทางทุจริต" นายจิรายุ ระบุ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1336201167&grpid=00&catid=03&subcatid=0305 |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น