"All men are equal in God's eyes. มนุษย์ทุกคนมีเท่าเทียมกันในสายพระเนตรของพระเจ้า
ผลงานชิ้นสุดท้ายของ mozart Requiem ขณะที่ mozart นอนป่วยบนเตียงนอน เสมือนเพลงๆ นี้
mozart กำลังมอบให้ มัจจุราช และ บุคคลที่อิจฉาเขา
Mozart - Requiem
Requiem Mass in D Minor Wolfgang Amadeus Mozart's final Masterpiece
was commissioned in mid 1791 by the Austrian count Franz Von Walsegg, as a Tribute to the...
ในชีวิตจริงของ Mozart เขาอาจจะเป็นนักประพันธ์ที่มีฝีมือ เขาอาจจะโด่งดังไปทั่วยุโรป แต่จุดประสงค์ของการแต่งเพลงทั้งหมดของเขานั้นก็เพื่อ ความรัก ดังที่เขาเคยกล่าวไว้ว่า
"Neither a lofty degree of intelligence nor imagination
nor both together go to the making of genius.
Love,love,love, that is the soul of genius."
Salieri ผู้โหยหาชื่อเสียง และอยากเป็นที่จดจำ เขาเลยคิดแผนฆ่า Mozart ด้วยการสวมหน้ากากเป็นพ่อของ Mozart
ที่ตายไปแล้ว แล้วมาขอให้ Mozart แต่งเพลง requiem (Mozart มีความเชื่อว่า ถ้าเค้าเขียนบทเพลง requiem
เค้าจะสิ้นชีวิตทันที) และเมื่อ Mozart ตาย Salieri ก็จะฉวยโอกาสว่าเพลง requiem บทนี้คือเพลงที่เขาแต่งขึ้นเอง
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อ Salieri ทำลายชีวิตของ Mozart ได้สำเร็จ แทนที่ Salieri จะดีใจ แต่เขากล
ับรู้สึกผิด
จนท้ายสุดต้องมาใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาลบ้า
บาทหลวงที่โรงพยาบาลบ้าได้บอก Salieri ว่า "All men are equal in God's eyes."
บาทหลวงที่โรงพยาบาลบ้าได้บอก Salieri ว่า "All men are equal in God's eyes."
(มนุษย์ทุกคนมีเท่าเทียมกันในสายพระเนตรของพระเจ้า) เท่านั้นแหละ Salieri ถึงกับปล่อยโฮสารภาพ
สิ่งที่เค้าทำกับ Mozart ออกมาทั้งหมด ทิ้งท้ายไว้เพียงคำถามที่ยังคาใจ Salieri ว่า ทำไม Mozart ตายไปแล้ว
แต่ชื่อและดนตรีของเค้ายังอยู่ ขณะที่ตัวเขาเองยังอยู่ กลับกลายเป็นว่าไม่มีใครจดจำ
Salieri ผู้อิจฉาริษยา Mozart คือคนที่เข้าใจงานของ Mozart มากที่สุด
ความอิจฉาริษยา ก็คือความต้องการ ความปรารถนาในสิ่งที่ผู้อื่นมี และคิดว่าตนเองไม่มี หรือมีน้อยกว่า
ซึ่ง ค่อนข้างคล้ายคลึงกับความโลภ เพียงแต่ความโลภจะเน้นหนักไปที่เรื่องของทรัพย์สินเงินทอง
Salieri ผู้อิจฉาริษยา Mozart คือคนที่เข้าใจงานของ Mozart มากที่สุด
ความอิจฉาริษยา ก็คือความต้องการ ความปรารถนาในสิ่งที่ผู้อื่นมี และคิดว่าตนเองไม่มี หรือมีน้อยกว่า
ซึ่ง ค่อนข้างคล้ายคลึงกับความโลภ เพียงแต่ความโลภจะเน้นหนักไปที่เรื่องของทรัพย์สินเงินทอง
ส่วนความริษยาจะหมายถึงเรื่องทั่วๆ ไปมากกว่า
ความอิจฉา บางครั้งก็ทำร้ายตนเอง และคนที่เกี่ยวข้องด้วย
ความอิจฉาฆ่าคนได้ บางครั้งก็เป็นการฆ่าโดยทางอ้อม โดยที่ท่านไม่รู้ตัว
ความอิจฉา บางครั้งก็ทำร้ายตนเอง และคนที่เกี่ยวข้องด้วย
ความอิจฉาฆ่าคนได้ บางครั้งก็เป็นการฆ่าโดยทางอ้อม โดยที่ท่านไม่รู้ตัว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น