วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

กสทช.ต่อลมหายใจสถานีวิทยุ 6,601 แห่ง ออกไปอีก 300 วัน

กสทช.ต่อลมหายใจสถานีวิทยุ 6,601 แห่ง ออกไปอีก 300 วัน

กสทช.ต่อลมหายใจสถานีวิทยุ 6,601 แห่ง ออกไปอีก 300 วัน เหตุหลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตยังไม่แล้วเสร็จ...

เมื่อวันที่ 29 พ.ย. น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการและโฆษกคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) มีมติให้ขยายระยะเวลาการทดลองออกอากาศเป็นการชั่วคราวออกไปอีก 300 วัน หรือ จนกว่า กสทช. จะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค. 2555 

ทั้งนี้ เนื่องจาก กสท ยังอยู่ระหว่างการกำหนดกฎเกณฑ์และเงื่อนไขการออกใบอนุญาตประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงตามที่ พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ 2551 กำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม กสท จะเร่งรัดการดำเนินการกำหนดกฎเกณฑ์การออกใบอนุญาตประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงโดยเร็ว ซึ่งขณะนี้กำลังทบทวนร่างหลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตที่ทางคณะกรรมการกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ได้ดำเนินการไว้ก่อนหน้านี้ คาดว่าจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 6-12 เดือน ในการดำเนินการ ซึ่งจะสอดคล้องกับการประกาศใช้แผนแม่บทคลื่นความถี่จะแล้วเสร็จในต้นปี 2555 

"การเปลี่ยนผ่านระหว่าง กทช.มาเป็น กสทช. ทำให้ต้องกำหนดหลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคม ให้สอดคล้องตามที่กฎหมายกำหนด แต่ในช่วงการร่างกฎเกณฑ์นั้น ก็ต้องมิให้เกิดสุญญากาศในการดำเนินกิจการ จึงต้องขยายเวลาการทดลองออกอากาศสถานีวิทยุที่มาลงทะเบียนไว้กับ กสทช. 6,601 แห่งทั่วประเทศ ออกไปอีก 300 วัน เพื่อมิให้เกิดปัญหาต่อการจัดระเบียบกิจการวิทยุกระจายเสียงในอนาคต" กรรมการ กสทช. กล่าว 

น.ส.สุภิญญา กล่าวต่อว่า สำหรับการประกอบกิจการกระจายเสียงในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบทั้งวิทยุชุมชน วิทยุสาธารณะ และวิทยุธุรกิจ โดย กสทช.จะต้องจัดระเบียบให้เป็นหมวดหมู่ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ อีกทั้งต้องมิให้เกิดปัญหาสัญญาณคลื่นรบกวนระหว่างกัน ซึ่งการจัดระเบียบสถานีวิทยุกระจายเสียงที่มีอยู่ 6,601 แห่งนั้นถือเป็นเรื่องยาก แต่ก็จะพยายามทำอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประเทศและประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด.

โดย: ทีมข่าวเศรษฐกิจ

29 พฤศจิกายน 2554, 15:30 น.

http://m.thairath.co.th/content/tech/220041

วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

'แสงเงา ความงดงาม วลีเอาอยู่ค๊า...' กับ พลังจิตอาสา 'ไร้พรมแดน'!!!

'แสงเงา ความงดงาม วลีเอาอยู่ค๊า...' กับ พลังจิตอาสา 'ไร้พรมแดน'!!!

คงได้มีโอกาสอ่านผ่านตาไปแล้วกับกลุ่ม 'Wipe The Tide' คนเล็ก คิดใหญ่ เทศ-ไทยจิตอาสา!! ที่สกู๊ปของไทยรัฐออนไลน์ http://www.thairath.co.th/content/life/218942 สัมภาษณ์  Michael Biedassek หนุ่มลูกครึ่งเยอรมันที่หลงเสน่ห์เมืองไทยมาอยู่เกือบ 10 ปี หนึ่งในผู้ก่อตั้งกลุ่ม Wipe the Tide ชาวต่างชาติที่มีจิตอาสารวมตัวกันเช็ดกระจกตาม 4 แยกทั่วกรุงเทพฯ เพื่อหาเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

ถ้ายังไม่ได้อ่าน ไปย้อนความประทับใจของฝรั่งจิตอาสาเหล่านี้หน่อยดีไหม...!

 

 


"ผมไม่อยากให้มองว่าฝรั่งมา กิน เที่ยวใช้สอยประเทศไทยแล้ว เกิดเหตุการณ์วิกฤติแบบนี้ไม่ออกมาตอบแทน"

"เมืองไทยเป็นเหมือนบ้านของเรา คนไทยเป็นเหมือนญาติพี่น้องของเราเหมือนกัน จริงอยู่ฝรั่งบางคนอยู่ไม่กี่วัน ไม่กี่เดือน  แต่สิ่งที่ผมสัมผัสได้ก็คือเขารักประเทศไทย ดังนั้นเมื่อเมืองไทยมีปัญหา เราจะอยู่นิ่งเฉยได้อย่างไร"

 

 

 

 


"ก่อนหน้านี้เมืองไทยจะมีปัญหามันมีปัญหาเยอะ ทั้งม็อบสีแดง สีเหลือง วันนี้เกิดปัญหาแบบนี้ ผมว่าน่าจะสลายความเป็นสี ไม่มีต่างชาติ แล้วมาช่วยเหลือกัน เพราะคนลำบากที่อยู่ห่างไกลสื่อยังมีอีกมากมาย" ฯลฯ

ไม่เพียงคำพูดแต่พฤติกรรมปากตรงกับหัวใจที่แสดงออกมาหลายสิ่ง หลายอย่างฟังแล้ว เห็นแล้วอิ่มเอมหัวใจ!!

ภาพเล่าเรื่องสัปดาห์นี้ เป็นภาพที่ห้างเซ็นทรัลเข้าไปร่วมกิจกรรมกับกลุ่มฝรั่งหัวใจอาสา ที่บอกตรงๆ แม้จะอิ่มเอมกับมิตรภาพไร้พรมแดนแค่ไหน แต่ทว่าในฐานะคนไทยยิ่งดู ยิ่งหวั่นไหว และพานคิดไปไกล เมื่อเปรียบเทียบกับ พฤติกรรม กิริยา ท่าทางในห้วงเวลา

 

 


วิกฤติที่ผ่านมา ชะรอยกลุ่มคนตาน้ำข้าวเหล่านี้ จะรักชาติ รักพี่น้องชาวไทย มากกว่า ชนชั้นใส่สูทผูกเนกไทคนไทยที่ประกาศก้องตลอด ในช่วงเวลาวิกฤติน้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมาตลอดเวลา ราวกับฟังเครื่องอัดเทปหลับตาบ่นซ้ำๆ ว่า"เชื่อผม...!" และ "เอาอยู่ค๊า...!! "

 

โดย: สกู๊ปออนไลน์

27 พฤศจิกายน 2554, 05:30 น.

http://m.thairath.co.th/content/life/219347

วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

แถลงไขทุกข่าวลือต้นเหตุรักร้าว 'นาตาลี เกลโบวา' นางงามหม้ายป้ายแดง

แถลงไขทุกข่าวลือต้นเหตุรักร้าว 'นาตาลี เกลโบวา' นางงามหม้ายป้ายแดง

ทันทีที่ไทยรัฐออนไลน์ได้พบกับ ''นาตาลี เกลโบว่า'' ในสตูดิโอถ่ายภาพแห่งหนึ่ง ก็สามารถการันตีได้เลยว่า น้องฟ้าที่คว้าใจคนไทยทั้งประเทศและหญิงหนึ่งเดียวที่ (เคย)คว้าใจและหยุดชีวิตเจ้าชู้ของนักเทนนิสหนุ่มฝีมือระดับโลกอย่าง ''ภราดร ศรีชาพันธุ์'' ได้นั้น สวยหยาดเยิ้มจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าสวยได้รูป ผิวเนียนขาวอย่างคนสุขภาพดี และรูปร่างที่สมส่วนไปทั้งเรือนร่าง คงไม่ใช่เพราะความสวยอย่างเดียวเท่านั้นที่ครองใจคนทั้งประเทศ แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นความน่ารักและเป็นกันเอง อีกทั้งความกล้าหาญที่พร้อมจะตอบทุกคำถาม ทั้งเรื่องส่วนตัวและข่าวลือในทางลบ หลังจากหย่าขาดกับอดีตสามีนักกีฬาเทนนิสอันดับ 9 ของโลกเมื่อปีก่อน

ชีวิตนักธุรกิจอดีตนางงามจักรวาล
"ตอนนี้ฉันเพิ่งจะเปิดตัวเว็บไซต์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นผิวพรรณ เส้นผมหรือรูปร่าง ซึ่งเป็นเคล็ดลับที่เหมาะสำหรับคนทุกวัย ไม่จำกัดเพศ โดยสาเหตุที่ฉันเริ่มต้นทำเว็บไซต์ดังกล่าว เพราะความฝันที่อยากจะมีธุรกิจด้านความสวยความงาม มีแบรนด์เครื่องสำอาง เครื่องประทินผิว รวมไปถึงเสื้อผ้าออกกำลังเป็นของตัวเอง ฉันเชื่อว่าสื่ออินเทอร์เน็ตจะช่วยต่อยอดกับธุรกิจในอนาคตของฉันได้" นาตาลีกล่าวอย่างยิ้มแย้ม และดูมีความสุขที่ได้พูดถึงอนาคตที่สดใสของเธอ

''ดวงตา'' การันตีเสน่ห์ผู้หญิง
มิสยูนิเวิร์สปี 2548 บอกกับไทยรัฐออนไลน์ว่า อวัยวะในร่างกายที่เธอชอบที่สุด น่าจะเป็นดวงตา ซึ่งทุกคนมักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตาของเธอสวยและมีเสน่ห์มาก และดูเหมือนว่าตัวนาตาลีเองก็ไม่ปฏิเสธ พร้อมยังแนะนำผู้หญิงทั้งหลายว่า ผู้หญิงทุกคนมีดวงตาที่สวยอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องรู้จัก ''แต่ง'' ส่วนตัวนางงามคนนี้ สนุกสนานกับการแต่งตาด้วยเครื่องสำอาง และรู้สึกมีความสุขทุกครั้งท่ีมีคนเข้ามาชมว่า ''ฉันตาสวย''

เคลียร์ประเด็นข่าวลือหลังหย่าร้าง
กลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งอยู่สักพักใหญ่ว่า บอล ภราดร ศรีชาพันธุ์ อดีตนักเทนนิสระดับโลก กับภรรยาสาว 

นาตาลี เกลโบวา ออกมาประกาศแยกทางกัน หลังจากใช้ชีวิตฉันสามี-ภรรยามานาน 3 ปี ซึ่งข่าวการหย่าร้างมาพร้อมกับข่าวลือที่เชื่อว่ามีมูลความจริง ทำลายภาพลักษณ์ของทั้งคู่ไปมากทีเดียว วันนี้น้องฟ้าจึงพร้อมที่จะตอบทุกข่าวที่ลือกันมาว่าจริงหรือมั่ว?? "ฉันหย่าจากคุณบอลมาสักพักใหญ่แล้วค่ะ (ยิ้มน้อยๆ) ซึ่งข่าวลือที่ว่า แม่ของภราดรดุมาก จนฉันต้องกระเด็นออกจากบ้าน ขอยืนยันว่าไม่จริงเลยค่ะ ส่วนเรื่องที่ว่าคุณบอลเจ้าชู้ ฉันขอปฏิเสธเสียงแข็งเลยนะ (หัวเราะ) เพราะตลอดเวลาที่คบหากัน ฉันไม่เคยเห็นเหตุการณ์ที่ชวนให้ตัวเองหึงสักครั้ง"

เคมีไม่ตรงกัน...สาเหตุสำคัญที่ต้องแยกทาง
"สาเหตุสำคัญที่ฉันต้องจบชีวิตคู่กับผู้ชายที่น่ารักแบบภราดร นั่นเป็นเพราะเราทั้งคู่ตกลงใจแต่งงานกันเร็วเกินไป เราไม่ได้ใช้เวลาศึกษากันเพียงพอ ขออธิบายแบบง่ายๆ เลยว่า ในตัวคนเรามีสารเคมีอยู่ ซึ่งคนที่จะมาร่วมชีวิตด้วยกัน ก็ต้องมีสารเคมีที่เข้ากันได้ ซึ่งหากสารเคมีมันเข้ากันไม่ได้ ชีวิตคู่มันก็ไปกันไม่รอด แต่ตอนนี้ความสัมพันธ์กับคุณบอลก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ติดต่อกันอยู่เสมอค่ะ"

แต่งงานกับคนดัง พอได้ดี ถีบหัวส่ง
เพราะว่าเป็นคู่รักที่คบหาดูใจกันไม่นาน ก็ประกาศลั่นระฆังวิวาห์ปานสายฟ้าแลบ จนเป็นข่าวฮอตสุดร้อนของสื่อทุกสำนัก จึงไม่น่าแปลกใจที่หลังจากประกาศหย่าร้างในอีก 3 ปีต่อมา หรือที่คนไทยเรียกว่า ''หม้อข้าวยังไม่ทันดำ'' ทำให้เกิดคำถามสงสัยในความรักของนางงามจากประเทศแคนาดาว่า รักภราดรจริง หรือแค่ต้องการสร้างภาพเรียกความสนใจจากสื่อ พอนาตาลีได้ยินคำถามก็ไม่ได้แสดงความตื่นเต้นหรือโกรธอะไรเลย กลับตอบคำถามแบบสบายๆว่า"เป็นคำถามยอดฮิตมากในช่วงนี้(หัวเราะ) แต่ใครจะรู้ว่าช่วงนั้นฉันเป็นเพียงเด็กสาวที่กำลังมีความรัก หลงใหลในความโรแมนติกและมีความฝันเหมือนผู้หญิงทุกคน ที่อยากจะมีเจ้าชายแสนเพอร์เฟ็กต์มาหลงรัก ตกลงแต่งงานและใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ในความจริงแล้วมันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย ชีวิตในเทพนิยายกับความเป็นจริงมันต่างกันโดยสิ้นเชิง"

กลบข่าวลือ ''ภราดร'' ทำ...ไม่เป็น
"การหย่าร้างของเราทั้งคู่เกี่ยวกับเรื่องความคิดและอย่างที่บอก ''เคมีไม่ตรงกัน'' ส่วนข่าวลือเรื่องบนเตียงที่พูดกัน 

ขอบอกเลยว่าทุกอย่างดี ยอดเยี่ยมและเพอร์เฟ็กต์ การที่เราจะมีสัมพันธ์กับใครสักคนแม้จะยอดเยี่ยมเพียงไร แต่ถ้าเข้ากันไม่ได้ มันก็ไปกันไม่รอด ขอยกตัวอย่างคู่พ่อแม่ของฉัน ท่านทั้งสองรักกันมายาวนาน ทุกวันนี้ก็ยังหวานแหววให้ลูกๆหลานๆ อิจฉากันตาร้อน"

พร้อมเปิดประตูหัวใจ แม้อดีตสามี (ยัง)ไม่ขอรับใครพิจารณา
ตอนนี้น้องฟ้ายอมรับว่ากำลังคบหากับชายหนุ่ม ซึ่งไม่ขอบอกว่าเป็นใครมาจากไหน แต่คุณเธอไม่ยอมรับว่าความสัมพันธ์เรียกว่าแฟนกันหรือยัง ซึ่งเราก็คงต้องรอฟังข่าวกันต่อไป แต่จะลั่นระฆังวิวาห์อีกรอบหรือไม่ นาตาลีบอกเพียงว่ายังไม่พร้อมซะทีเดียว เนื่องจากเธอเคยผ่านช่วงเวลาสุดยอดในชีวิตผู้หญิงมาแล้ว เช่น การได้ใส่ชุดแต่งงาน มีงานแต่งงานที่หรูหรา เพื่อนและญาติพี่น้องร่วมอวยพรให้มีความสุข สำหรับตัวเอง การแต่งงานถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ควรจะคิดให้รอบคอบเสียก่อน

มุมมองความรักเปลี่ยนไปตามประสบการณ์ที่พบพาน
"เมื่อช่วงก่อนแต่งงาน ผู้หญิงส่วนใหญ่รวมถึงตัวฉันเองก็ต้องการผู้ชายหล่อสมบูรณ์พร้อม ใช้อารมณ์ความรัก ความหลง กำหนดอนาคตของชีวิต แต่หลังจากฉันผ่านชีวิตเหล่านั้นมาแล้ว มันเป็นประสบการณ์ที่ช่วยสอนให้ตัวเองใจเย็น ใช้เวลาศึกษาชายที่คิดว่าใช่ให้ดีเสียก่อน ต้องมั่นใจว่าผู้ชายคนต่อไปที่เราเลือก จะต้องมีเคมีที่เข้ากัน อยู่ด้วยกัน จับมือจูงกันไปจนถึงอายุ 80 ปี" พอนาตาลีพูดจบก็อมยิ้ม คงกำลังนึกภาพตัวเองในอีก 5 ทศวรรษข้างหน้า...!!!

ไม่ขอย้อนเวลาเพื่อแก้ไข แต่มุ่งมั่นทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุด

คำถามที่น้องฟ้าตอบได้ประทับใจผู้ชมมากที่สุด คงจะเป็นคำถามที่ให้นางงามม่ายผู้นี้ ย้อนเวลากลับไปเพื่อแก้ไขอดีต จะขอกลับไปแก้ช่วงเวลาไหน นางฟ้า เอ้ย..น้องฟ้าตอบได้ฉลาดทีเดียวว่า "ไม่ขอกลับไปแก้อะไรเลย ชีวิตของฉันดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็น อะไรที่ผ่านมาถือเป็นประสบการณ์ แม้ชีวิตคู่ของฉันจะล้มเหลวในสายตาผู้อื่น แต่ฉันเชื่อว่าอย่างน้อย ฉันก็ได้พบผู้ชายดีๆคนหนึ่ง และตอนนี้ฉันกำลังมีธุรกิจเล็กๆของตัวเอง การงานก็กำลังไปได้สวย อีกทั้งคนรอบข้างก็เป็นมิตรและคอยช่วยเหลือ ตอนนี้ฉันมีความสุขที่สุดแล้ว แต่สิ่งที่นาตาลี เกลโบวาต้องการที่สุด ก็คืออนาคตที่มั่นคง มีแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตัวเอง ผลิตรายการโทรทัศน์ภายใต้ชื่อนาตาลี เกลโบวา และก่อตั้งมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือสังคม แม้ใครจะมองว่าสิ่งที่ฉันทำต่อยอดมาจากหน้าตาที่สามารถคว้าตำแหน่งมิสยูเวิร์สมาได้เท่านั้น ขอบอกเลยว่า ถึงตัวฉันจะอายุ 40 ปีก็ตาม แต่ถ้าคนเรารู้จักดูแลตัวเอง จะอายุเท่าไรก็สวยได้"

10 ข้อส่งท้ายบ่งบอกความเป็น ''นาตาลี เกลโบวา''
  1. เกิดวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2524 ที่เมืองทุปเซ่ ประเทศรัสเซีย แต่เติบโตที่เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา 
  2. หญิงงามผู้นี้มีความสูง 177 เซนติเมตร มีผมสีทอง ดวงตาสีฟ้าชวนมองเป็นที่สุด
  3. สำเร็จการศึกษาจากคณะพาณิชยศาสตร์ สาขาการบริหารข้อมูลเทคโนโลยีและการตลาด มหาวิทยาลัยไรเยอร์ซัน ประเทศแคนาดา
  4. ด้วยหน้าตาที่สวยโดดเด่น จึงสามารถคว้ามงกุฎนางงามจักรวาลไปครองในปี 2548 ซึ่งจัดการประกวดขึ้นที่ประเทศไทย
  5. เคยยึดอาชีพนางแบบเป็นอาชีพหลัก ก่อนจะลงประกวดนางงามประเทศแคนาดา
  6. แต่งงานกับอดีตนักเทนนิสอันดับ 9 ของโลกในวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 ที่โรงแรมโอเรียนเต็ล และตัดสินใจหย่าขาดกันในอีก 3 ปีต่อมา
  7. กีฬาที่นาตาลีหลงใหล ได้แก่ ดูหนัง เล่นเปียโน โยคะ ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน โรลเลอร์เบลด และชอบเล่นยิมนาสติกเป็น  ชีวิตจิตใจ ถึงขนาดเคยเป็นแชมป์เยาวชนเลยทีเดียว
  8. เวลาว่างในช่วงนี้ มักจะอ่านหนังสือเพื่อสุขภาพ โดยจะนำมาเผยแพร่ในเว็บไซต์ที่เธอกำลังทำอยู่
  9. "ไม่จำกัดว่าจะคล้ำหรือขาว เป็นคนไทยหรือต่างชาติก็ได้ ขอเพียงมีเคมีที่ตรงกัน" นาตาลีเผยสเปกหนุ่มที่ใช่ 
10. สไตล์ภาพยนตร์ในใจของนางงามผู้นี้ ขอเป็นหนังแนวคอมเมดี้ ที่สร้างรอยย้ิมและเสียงหัวเราะ

โดย: ไทยรัฐออนไลน์ไลฟ์สไตล์

21 พฤศจิกายน 2554, 08:00 น.

http://m.thairath.co.th/content/life/217923

 

'ริชาร์ด แบรนสัน' เตรียมพานางเอกไททานิค ชมซากเรือใต้มหาสมุทร

 

'ริชาร์ด แบรนสัน' เตรียมพานางเอกไททานิค ชมซากเรือใต้มหาสมุทร

"ริชาร์ด แบรนสัน" เจ้าของธุรกิจกลุ่มเวอร์จิ้น เตรียมพา "เคท วินสเล็ต" นางเอกภาพยตร์เรื่องไททานิค ลงเรือดำน้ำ 

ดิ่งมหาสมุทรลึก 12,500 ฟุต เพื่อชมซากเรือเดินสมุทรในตำนานลำจริง...

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อ 21 พ.ย. ว่า "ริชาร์ด แบรนสัน" นักธุรกิจอภิมหาเศรษฐีแห่งเครือ "เวอร์จิ้น" 

เตรียมทริปดำดิ่งสู่ใต้ท้องมหาสมุทร เพื่อชมซากปรักหักพังของเรือเดินสมุทรลำยักษ์ "ไททานิค" ที่อับปางในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ และนอนนิ่งอยู่ในความลึก 12,500 ฟุต ระหว่างการเดินทางจากเซาแธมป์ตันไปยังมหานครนิวยอร์ก เมื่อ 15 เม.ย. 1912 หรือกว่า 99 ปีที่แล้ว

ริชาร์ด แบรนสัน

ริชาร์ด แบรนสัน

ทั้งนี้ แบรนสันเผยว่าจะเชิญ "เคท วินสเลต" นักแสดงนำจากภาพยนตร์เรื่องไททานิค ผู้รับบทเป็น "โรส" ลงไปสำรวจใต้ท้องมหาสมุทรพร้อมกันด้วย ซึ่งค่าใช้จ่ายต่อคน ตกราวคนละราว 38,000 ปอนด์ (เกือบ 1,900,000 บาท) และแบรนสันจะรับเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้เองทั้งหมด "มันคงจะดี หากนักแสดงนำจากภาพยนตร์เรื่องไททานิคได้ลงไปเห็นเรือลำจริงไม่ใช่หรือ ผมจะลองชวนเคทดู และผมมั่นใจว่านี่เป็นโอกาสที่เธอจะตกลงเดินทางไปกับเราแน่นอน" แบรนสัน กล่าว

สื่อระบุด้วยว่า แบรนสัน และวินสเลต จะนั่งเรือดำน้ำลงไปชมซากเรือไททานิค พร้อมกับเจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง นอกจากนี้ แบรนสันยังยังปรารถนาให้ลูกๆ ของเขาร่วมการเดินทางด้วยเช่นกัน

อนึ่ง ผู้กำกับ เจมส์ คาเมรอน นำภาพยนตร์เรื่องไททานิค ที่กวาดรายได้มหาศาลเมื่อปี 1997 มารีเมกและลงจอเงินในรูปแบบ 3 มิติ เรียกความฮือฮาอีกครั้ง โดยมีกำหนดฉาย เม.ย. ปีหน้า ซึ่งเป็นช่วงครบรอบ 100 ปีการอับปางพอดี.

 

โดย: ไทยรัฐออนไลน์

21 พฤศจิกายน 2554, 05:15 น.

http://m.thairath.co.th/content/oversea/218041

วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

2011 11 18@2211 ญี่ปุ่นส่งเครื่องสูบน้ำ 10ชุด ถึงไทย เร่งกู้นิคมอุตฯโรจน...

ภาพคลองประดิษฐ์ ทำจากเหล็ก มีค้ำยัน วางแนวบนถนนเลียบคลองบางน้ำจืด ใช้เครื่องสูบน้ำพญานาคช่วยผันน้ำออกมหาชัย สู่อ่าวไทย

ภาพคลองประดิษฐ์ ทำจากเหล็ก มีค้ำยัน วางแนวบนถนนเลียบคลองบางน้ำจืด 
ใช้เครื่องสูบน้ำพญานาคช่วยผันน้ำออกมหาชัย สู่อ่าวไทย






ตั้งโครงเหล็กค้ำยัน เพื่อทำเป็นกำแพงคลอง


 

กระทู้เพิ่มเติมในเรื่องนี้
http://www.pantip.com/cafe/news/topic/NE11319279/NE11319279.html

http://www.pantip.com/cafe/news/topic/NE11324840/NE11324840.html

http://www.pantip.com/cafe/news/topic/NE11328746/NE11328746.html#150



http://www.kebtawan.com/thread-3521-1-1.html

ภาพชุดตุ๊กตาจมน้ำท่วม เขตบางใหญ่

 
วันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 เวลา 03:01 น.  ข่าวสดออนไลน์ 


ภาพชุดตุ๊กตาจมน้ำท่วม เขตบางใหญ่

 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมจากอ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ว่า ที่ถนน 340 ตลิ่งชัน-สุพรรณฯ ระดับน้ำแม้จะลดลงจากเดิมประมาณ 10-20 ซ.ม. แต่ยังท่วมสูงอยู่ที่ 30-50 ซ.ม. รถเล็กยังไม่สามารถผ่านได้ ทางหลวงได้นำบิ๊กแบ๊กพร้อมถังซีเมนต์มากั้นริมฟุตปาธ ไม่ให้น้ำเข้าเพื่อสูบน้ำออกจากผิวการจราจร เพื่อเปิดเส้นทางให้รถสัญจรไปมาได้ ด้านผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" เก็บภาพตุ๊กตาหลายตัวที่จมน้ำอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว พร้อมด้วยภาพวิถีชาวบ้านที่ต้องปรับตัวอยู่ในสภาพน้ำท่วม

 

 

 


http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNeU1UWTBOalkyT0E9PQ==&sectionid=

Share127

 

  • ภาพ : พระจมน้ำโรงหล่อพระซ.วัดลาดปลาดุก